IUI กับ IVF ต่างกันอย่างไร? เลือกวิธีไหนให้เหมาะกับคุณ
ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้าอย่างมาก การช่วยเหลือคู่รักที่ประสบปัญหามีบุตรยากกลายเป็นเรื่องที่มีความหวังมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำ IUI หรือ IVF ต่างก็เป็นทางเลือกยอดนิยมที่แพทย์มักแนะนำ แต่หลายคนอาจสงสัยว่า IUI คืออะไร? แล้วแตกต่างจาก IVF อย่างไร วิธีไหนดีกว่า? และจะเลือกแบบไหนให้เหมาะกับสถานการณ์ของตนเอง?
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักทั้ง IUI และ IVF อย่างละเอียด พร้อมเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย รวมถึงแนวทางในการเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด
IUI คืออะไร?
IUI ย่อมาจาก Intrauterine Insemination หรือการฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรง วิธีนี้มักใช้ในกรณีที่ฝ่ายชายมีปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพอสุจิ หรือฝ่ายหญิงมีภาวะไข่ตกไม่ปกติ
ขั้นตอนการทำ IUI โดยสังเขป:
- ตรวจสุขภาพทั้งสองฝ่าย
- กระตุ้นไข่ฝ่ายหญิงด้วยยา
- ตรวจอัลตราซาวด์ดู ขนาดไข่ IUI
- คัดเชื้ออสุจิที่แข็งแรง
- ฉีดเชื้อเข้าโพรงมดลูกในช่วงไข่ตก
- ติดตามผลหลังทำประมาณ 14 วัน
IVF คืออะไร?
IVF หรือ In Vitro Fertilization คือการปฏิสนธินอกร่างกาย โดยแพทย์จะเก็บไข่จากฝ่ายหญิงมาผสมกับอสุจิในห้องปฏิบัติการ แล้วนำตัวอ่อนที่ได้ใส่กลับเข้าไปในโพรงมดลูกของฝ่ายหญิง
ขั้นตอน IVF:
- กระตุ้นไข่ให้ได้หลายใบ
- เก็บไข่และอสุจิ
- ปฏิสนธินอกร่างกาย
- เลือกตัวอ่อนที่สมบูรณ์
- ใส่ตัวอ่อนกลับเข้ามดลูก
เปรียบเทียบ IUI vs IVF
หัวข้อ | IUI | IVF |
ขั้นตอน | ง่ายและไม่ซับซ้อน | ซับซ้อนและใช้เวลามาก |
ค่าใช้จ่าย | ต่ำกว่า IVF มาก | ค่าใช้จ่ายสูง |
โอกาสสำเร็จ | ประมาณ 10-15% ต่อรอบ | 40-60% ต่อรอบ (ขึ้นกับอายุ) |
ความเจ็บปวด | เจ็บเล็กน้อยคล้ายตรวจภายใน | อาจรู้สึกไม่สบายตัวระหว่างเก็บไข่ |
เหมาะกับใคร | ปัญหามีบุตรยากระดับเบา-กลาง | ปัญหามีบุตรยากระดับรุนแรง |
สามารถเลือกเพศได้หรือไม่ | ✗ | ✓ (ในบางประเทศและเงื่อนไข) |
IUI ดีไหม? ข้อดี ข้อเสียของ IUI
ข้อดี:
- ค่าใช้จ่ายน้อย (iui ราคา โดยเฉลี่ย 10,000–40,000 บาท/ครั้ง)
- ขั้นตอนรวดเร็วและปลอดภัย
- ไม่ต้องผ่าตัดหรือดมยาสลบ
- เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นรักษาภาวะมีบุตรยาก
ข้อเสีย:
- อัตราความสำเร็จค่อนข้างต่ำ โดยเฉพาะในผู้หญิงอายุมาก
- ต้องทำซ้ำหลายครั้ง (ทำ iui ได้กี่ครั้ง ขึ้นกับคำแนะนำแพทย์)
- ไม่สามารถใช้ในกรณีท่อนำไข่อุดตันหรือไม่มีไข่
จะรู้ได้อย่างไรว่าควรเลือก IUI หรือ IVF?
- อายุของผู้หญิง
- หากอายุต่ำกว่า 35 ปี และยังไม่เคยรักษา IUI อาจเป็นทางเลือกแรก
- หากอายุมากกว่า 38 ปี หรือมีปัญหาซับซ้อน ควรพิจารณาการทำ IVF
- คุณภาพของไข่และอสุจิ
- หากคุณภาพอสุจิพอใช้ และไข่ตกได้สม่ำเสมอ IUI อาจเพียงพอ
- หากมีปัญหาอสุจิรุนแรงหรือมีไข่น้อย IVF จะให้ผลลัพธ์ดีกว่า
- งบประมาณ
- IUI เหมาะกับคู่รักที่ต้องการเริ่มต้นการรักษาโดยมีค่าใช้จ่ายไม่สูง
- IVF ต้องมีงบประมาณสูงและอาจต้องเก็บไข่หลายรอบ
- ระยะเวลาที่พยายามตั้งครรภ์
- หากพยายามมานานเกิน 1–2 ปีโดยยังไม่สำเร็จ อาจพิจารณาข้าม IUI ไปทำ IVF
IUI เหมาะกับใคร?
- ฝ่ายหญิงที่มีประจำเดือนสม่ำเสมอ และไม่มีภาวะท่อนำไข่อุดตัน
- ฝ่ายชายมีปัญหาอสุจิเล็กน้อยถึงปานกลาง
- คู่รักที่ต้องการหลีกเลี่ยงขั้นตอนซับซ้อนของ IVF
เลือกทำ IUI ที่ไหนดี?
การเลือกสถานพยาบาลมีผลต่อความสำเร็จอย่างมาก ควรพิจารณาดังนี้:
- แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์เจริญพันธุ์
- เครื่องมือทันสมัย มีห้องแล็บมาตรฐาน
- รีวิวจากผู้ใช้จริงและอัตราความสำเร็จของคลินิก
- การให้คำแนะนำแบบใกล้ชิด และโปร่งใสด้านค่าใช้จ่าย
สรุป
การเลือกว่าจะทำ IUI หรือ IVF ไม่ใช่แค่เรื่องของค่าใช้จ่ายหรือโอกาสสำเร็จ แต่ต้องดูที่สุขภาพโดยรวม อายุ และเป้าหมายของแต่ละคู่ การเริ่มต้นด้วย IUI อาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคู่รักหลายคน แต่หากทำ IUI แล้วไม่ประสบความสำเร็จในหลายรอบ อาจต้องพิจารณาขยับไปทำ IVF ที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงกว่า
สุดท้ายนี้ คำแนะนำที่ดีที่สุดคือปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อวางแผนที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุดสำหรับคุณและครอบครัว